Superior Spider-man #4-5

Superior Spider-Man # 4

ฆาตกรโรคจิตสุดอำมหิตหลุดออกมา สไปเดอร์แมนผู้เปลี่ยนไปของเราจะให้อภัยกับการฆ่าคนตายของเขาหรือไม่!

“ฉันใช้เวลเป็นเดือนอยู่ในร่างปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ และฉันได้ค้นพบถึงสี่งที่เขาต้องการ”

“เขาเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์แคบจริงๆ ไม่มีการแบบแผน หรือจัดเวลา แค่มุ่งหน้าจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งแบบไร้จุดหมายก็ว่าได้”

“แต่นั่นมันไม่ใช่ฉัน”

เขาคงหมายถึงสไปเดอร์บ็อท หน่วยสอดแนมของเขา เขาช่วยเหลือเมืองนิวยอร์กไว้มากมาย แต่เมื่อกำลังจะไปอย่างสถานที่ไฟไหม้ที่ได้รับแจ้ง เขาก็เปลี่ยนใจไม่ไปทำซะงั้นเพราะเห็นว่าวันนี้เขาช่วยเหลือผู้คนเยอะพอแล้วซึ่งขัดกับนโยบายของพีท

เขาต้องไปทำธุระสำคัญ

นั้นก็คือการไปเยี่ยมป้าเมย์ที่สุขภาพก็ทรุดไปตามอายุของเธอ เธอเดินเหินไม่สะดวกแล้ว

อ็อคเลยกลับมาที่ฮอไรสันแล็บและทำการประดิษฐ์อุปกรณ์ที่ทำให้คนพิการหรือเสื่อมสภาพด้านการเดินหรือเคลื่อนไหวกลับมาได้อย่างเป็นปกติ และเขาจะให้ป้าเมย์ทดลองเป็นคนแรก แต่ แม็ก หัวหน้าของเขาไม่คิดว่าการใช้หนูทดลองเป็นคนจะถูก เขาจึงโอ้อวดว่าเขาน่ะคือดร. แต่ก็รู้ความจริงว่า “พีทไม่ได้จบปริญญาเอก” นั้นทำเอาเขาหัวเสีย

ตัดมาที่สถานบำบัติ Ravencroft

ตอนนั้นเอง ดร.แอชลีย์ที่เฝ้าอยู่ที่เรือนจำของผู้วิกลจริตหรือคนบ้านั้นล่ะ เข้ามาดูสถานการณ์ในห้องขังของแม๊สเกอร์แต่กลับพบศพยามเฝ้าหน้าห้องอยู่ในนั้น

(สำหรับใครที่ไม่รู้จักหมอนี้ หมอนี้เป็นคนบ้าครับ ชื่อจริงชื่อ มาร์คัส ไรแมน ถูกพีทช่วยไว้ แต่ได้รับบาดเจ็บทางสมองอย่างรุนแรง นั้นทำให้เขาเห็นชีวิตผู้คนเป็นเชื้อโรคก็ว่าได้ จากเหตุการณ์สังหารหมู่ก่อนหน้านี้ พีทที่ตอนนั้นยังเป็นสไปดี้ อยู่ช่วยเขาไว้จากตำรวจที่จะวิสามัญเขา แม้จะเป็นผู้ร้าย สไปเดอร์แมนก็จะไม่ปล่อยให้ตาย และจับกุมเขาได้สำเร็จ)

แต่ความจริงแม๊สเกอร์ไม่ได้หายไปไหนมันปลอมตัวเป็นยามอยู่หน้าห้องและก็จัดการผู้อยู่ในเหตุการณ์นี้ทุกคนตามระเบียบ

อ็อคในร่างปีเตอร์ที่เข้าเรียนในมหาลัยเพื่อเรียนต่อปริญญาเอก(เอาจริงนะมันเนี่ย)ก็เจอเพื่อนเก่า(ตอนยังเป็นด็อคอ็อคอยู่คงรู้จักกัน)ซึ่งเป็นอาจารย์แล้วดันไปเผลอเรียกเขา “พี่โน้ต” เข้าให้เพราะหมอนี่จมูกใหญ่ ทำเอาอาจารย์ผู้สอนไม่ปลื้มเท่าไหร่ แต่ตอนนั้นเขาก็ได้รับการติดต่อว่าเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้น

สไปเดอร์แมนถึงที่เกิดเหตุ ก็ถูก JJ. ด่ายกใหญ่เพราะเขาเคยสัญญาว่าหมอนี้จะไม่ถูกปล่อยออกมาอีก

พีท : นี่เป็นความผิดของฉันเอง ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง ต้องเอาการควบคุมร่างกลับมา ตามหาเจ้าฆาตกรนั่นแล้วเอามันกลับสู่กฎหมายอีกครั้ง ฉันสาบานว่าจะไม่มีใครต้องมาหยุดหายใจไปเพราะหมอนี้อีกในวันน….

แต่ อ็อค
ไม่คิดแบบนั้น

อ็อค : นั่นมันไม่ใช่แค่ชีวิตของผู้บริสุทธิ์ชีวิตเดียว ผมผิดเองที่ปล่อยหมอนั้นไว้ให้หายใจบนโลกนี้ต่อ มันจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก! ผมสัญญากับคุณเลย JJ. ว่าผมจะจัดการมันซะ! แล้วตอนนี้ไอ้เวรนั้นมันอยู่ไหน! เจ้าฆาตกรนั่นมันอยู่ที่ไหน!

ตัดมาที่แม๊สเกอร์

มันถล่มร้านเบอร์เกอร์ทาวด์ซะเละ เนื่องจากมันยื่นขอเสนอแล้วมีคนไม่ทำตามนั้นคือ มันต้องการแค่กินข้าว มันจะไม่ฆ่าใครถ้าทุกคนอยู่เฉยๆแล้ววางกระเป๋าสตางค์ กับกุญแจรถไว้ที่พื้น

มีคนไม่ทำตามมันเลยสาดกระสุนจนคนทั้งร้านไปทัวร์ดิสนี่ย์แลนด์ที่นรกกันหมด เหลือแต่แม่ลูกเพียงคู่เดียว

มันให้แม่ลูกคู่นั้นขับรถมาส่งในเมืองแล้วบอกว่าถ้าไปบอกใครมันจะเปากะโหลกทั้งคู่ซะ พอมาถึงก็ปล่อยสองคนนั้นไปเฉยๆสะงั้น แต่คู่ว่าอย่าบอกใครไม่งั้นจะยิงกราดอีก

ตัดมาที่อีแร้งน้อย….และผู้ที่เสนอจะมาดูแลมันแทนเอเดรียน!

ตอนนั้นในอีกมุมหนึ่งของเมือง เหล่านกน้อยของวอยเจอร์ที่ยังเหลืออยู่ก็บินหนีแล้วดันไปป๊ะเข้าให้กับหุ่นแมงมุมของด็อกอ็อค พวกมันกลัวจะโดนตามล่า แต่ตอนนั้น เจ้าหุ่นยนต์ก็ถูกเหยียบซะกระจายโดยคนๆหนึ่ง

? : ไม่มีทาง หมอนั้นจะไม่กำเริบเสิบสานไปมากกวานี้อีกแล้ว เพราะพวกแกมีผู้คุ้มครองพวกแกจากไอ้แมงมุมตัวเล็กนั้นแล้วล่ะ ใครคนนั้นที่รู้วิธีการและจุดอ่อนของมัน

มันคือศัตรูคู่ปรับตลอดกาลของสไปเดอร์แมนนั้นเอง

กรีนก็อปลิน : แล้วพวกเมพขิงแบบนั้น มันก็จะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากฉันไงล่ะ

Superior Spider-Man # 4
End

 

Superior Spider-Man # 5

การล้ำเส้นของซุปเปอร์ฮีโร่ผู้ทรงคุณธรรมที่สุด

มีรันด้า พูลแมน ผู้บริหารของร้านเบอร์เกอร์ทาวน์ที่โดนแม๊สเกอร์ยิงลูกค้าซะยกร้านไปเล่มที่แล้ว รับรู้ว่า ร้านเบอร์เกอร์ของเธอกำลังดัง(ในทางแย่)เป็นพลุระเบิด แต่ตอนนั้นแม๊สเกอร์ก็เข้ามาหาและยื่นขอเสนอว่า เขาจะเป็นพรีเซนเตอร์อย่างไม่เป็นทางการให้ โดยเขาจะใส่เสื้อยืดที่มีโลโก้ของคูแข่งทางธุรกิจในขณะที่เขาจะไปกราดยิงผู้คนในย่านกลางเมือง แลกกับเงิน12ล้าน การจับมือกันทำธุรกิจสกปรกจึงเริ่มขึ้น

ตอนนั้น สไปเดอร์แมนกับยูอาตุ แจ็คสัน คนในฮอไรสันแล็บกำลังวุ่นอยู่กับการลงโปรแกรมสแกนใบหน้าให้สไปเดอร์บ็อทและเลนส์ที่หน้ากากของสไปเดอร์แมน

หลังจากที่อ็อคในร่างปีเตอร์แวะไปกินข้าวที่บ้านของเด็กสาวร่างเล็กซึ่งเป็นเพื่อนที่มหาลัยของเขา(รู้จักกันเมื่อเล่มที่แล้ว)

เขาก็ออกไปทำภารกิจของสไปเดอร์แมน โดยระบบตรวจจับใบหน้าของสไปเดอร์บ็อทสามารถตรวจจับใบหน้าของแม๊สเกอร์ได้ แต่เนื่องจากในคำแนะนำของพีท ทำให้อ็อครู้ว่า แม๊สเกอร์ชอบจับตัวประกันไว้ในอีกที่ เขาจึงไปจัดการส่วนนั้นก่อน

และเขาก็ช่วยตัวประกันได้สำเร็จ

 

แต่แม๊สเกอร์ที่อยู่ในตึกย่านแกรนเซ็นทัลและกราดยิงใส่เจ้าหน้าที่เป็นผักปลาอีกครั้งจน JJ. กลุ้มหัวเสียและโทษว่าเป็นความผิดของสไปเดอร์แมน(อีกแล้ว)

และแล้ว สไปดี้ก็มาถึง แต่แม๊สเกอร์กำลังเล็งปืนไปที่เด็กชายผู้โชคร้าย วิญญาณของปีเตอร์จึงบอกให้เขาช่วยเด็กก่อน อ็อคจึงยิงใยช่วยเด็กไว้ได้ทัน แต่เขาก็แปลกใจว่าทำไมเขาทำแบบนี้ (สังเกตว่า พีทเริ่มแทรกแซงเขาได้มากขึ้นแล้ว)

จากการที่มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายเพราะเจ้าตัวร้ายนี้มามากมาย อ็อคและปีเตอร์จงลงความคิดเป็นเอกฉันท์ว่า ต้องจัดการไอ้หมอนี้ซะ

สไปเดอร์แมนจัดการเขาได้ด้วยความคล่องแคล่วที่สูงมากๆ(การหลบหลีกของเขาเป็นอันดับต้นๆของจักรวาล marvel)

แม้แม๊สเกอร์จะมั่นใจว่ามีแผนเตรียมไว้ เขาก็คิดผิดเนื่องจากสไปเดอร์แมนปล่อยตัวประกันไปเรียบร้อยแล้วนั้นเอง

แต่ทว่า จุดพีคมันอยู่ตรงนี้ล่ะ อ็อคมีความคิดบางอย่างเกิดขึ้น แล้วนั้นทำให้สไปเดอร์แมนหยิบปืนขึ้นมา

พีท : ด็อค นี่นายคิดจะทำอะ…

สไปเดอร์แมน
ยิงปืนเข้าใส่ แม๊สเกอร์
ทันทีซึ่งนั้นเป็นเรื่องที่สไปเดอร์แมนไม่เคยทำมาก่อน

แม๊สเกอร์เห็นท่าไม่ดีจึงพยายามคว้าปืนให้ได้แต่ถูกสไปเดอร์แมนมาขวางและเหยียบมือของเขาจนเละ

เขาเล็งปืนไปที่หัวของแม๊สเกอร์ และบอกว่าตนเองเคยใช้อาวุธมามากมาย แต่ไม่ค่อยชอบการใช้ปืน

พีท : อย่านะเว้ยอ็อค!

สไปเดอร์แมน : ท้ายที่สุด ก็ลงเอยแบบนี้

พีท : ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้แล้ว เขาไม่ใช่คนปกตินะ เราต้องช่วยเขา

สไปเดอร์แมน : นี่คือทางออกของเรื่องนี้

พีท : ไม่อ็อค อย่าเชียวนะ นายจะไม่ทำแบบนั้น

แม้ปีเตอร์จะพูดและพยายามแทรกแซงเหมือนที่ทำได้ผลมาหลายครั้งก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้มันกลับไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว

สไปเดอร์แมน : แล้วไงต่อล่ะ ฉันจะจับแกให้ตำรวจ ทิ้งคำพูดดีไว้แล้วจากไปเฉยๆ รอให้แกแหกคุกออกมาฆ่าคนใหม่งั้นเหรอ มีคนตายไปกี่คนแล้ว แล้วแกจะฆ่าใครอีกล่ะ มันจะวนเวียนแบบนี้อีกกี่รอบ แกรู้จักคำว่าพอมั้ย เมื่อไหร่แกจะหยุดทำอะไรบ้าๆแบบนี้ซะที พูดสิเว้ย!

ตอนนั้นแม๊สเกอร์ก็ร้องไห้ออกมา ทุกคนในที่นั้นบอกให้สไปเดอร์แมนยิงเขา พีทยังคงกล่อมอ็อคในร่างของตนต่อ แต่ไม่มีสิ่งใดรับฟังเขาแล้ว

สไปเดอร์แมน : มันไม่เปลี่ยนหรอก แกก็ยังเป็นแก สันดานนักฆ่ามันอยู่ในตัวแก ดังนั้น ทางออกก็คือทางนี้ทางเดียว

สิ้นคำ แสงจากปลายกระบอกปืนก็สว่างวาบ! และแล้ว สไปเดอร์แมนก็ข้ามเส้นขีดจำกัดไปจนได้…

เมื่อจบสิ้นภารกิจ ทุกคนแม้แต่JJ. ต่างขอบคุณสไปเดอร์แมน ทว่ามันยังไม่จบดีหรอก

ตัดมาที่มิรันด้า เธอถูกสายตานับสิบจับตามอง สายตาของสไปเดอร์บ็อท ตอนนั้นทีวีที่เธอดูอยู่ก็กลายเป็นภาพสไปเดอร์แมน

สไปเดอร์แมนผู้ไม่ให้อภัยบอกกับเธอว่า เขารู้ทุกอย่างที่เธอทำ เธอต้องไปมอบตัวไม่งั้นเขาจะจัดการเธอซะ

สไปเดอร์แมนผู้นี้ เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงโดยสมบูรณ์แล้ว…

Superior Spider-Man # 5
End

คุยกันท้ายเล่ม…

ก็จบกันไปสำหรับอีก 2 เล่มนั้นก็คือ เล่มที่ 4-5 ย่อชนิดที่เรียกได้ว่าสุดตีนกันอีกแล้วครับ แต่ก็เหตุผลเดิมที่ว่า มันไม่มีอะไรสระสำคัญ ผมจะคัดแต่คำพูดที่มันดูสำคัญจริงๆมา

เอาล่ะ สำหรับ 2 เล่มนี้จะเห็นได้ชัดว่า ปีเตอร์สามารถแทรกแซงร่างตัวเองได้มากขึ้นแล้ว แต่ประเด็นที่ดูจะสำคัญกว่าคือ “กฎ” ของเขานั้นเองที่เหมือนกับว่าจะถูกฝืนซะแล้วสิ(ถ้าแดน สล็อต ไม่เกรียนอะนะ)

สำหรับผม ก็ไม่รู้จะคิดยังไงครับว่าจะเข้าข้างใคร ปกติผมเห็นด้วยกับปีเตอร์สุดตัว(ถึงขนาดเอาไปปฏิบัติในชีวิตจริงคือไม่ฆ่าสัตว์เลยทีเดียวนะเนี่ย!) แต่ครั้งนี้ดูเหมือนอ็อคจะทำสิ่งที่ถูกครับ และมันก็เป็นอะไรที่ควรจะอธิบายสรุปด้วยประโยคว่า “คนบางคนก็สมควรตายเหมือนกัน”นั้นเอง

ตอนนี้อาจจะมีหลายคนชื่นชอบสไปเดอร์แมนคนใหม่นี่มากขึ้นเสียแล้วสิ ผมก็ชอบนะ แต่ชอบพีทมากกว่า ฮ่าๆ สำหรับเล่มหน้าน่าจะเข้าสู่ช่วง Age Of Ultron แล้วครับ และเล่ม 7 ก็จะเข้าสู่อีเวนท์ที่มีชื่อว่า Fired อย่างที่มีตัวอย่างปล่อยออกมา น่าสนุกแน่ๆเมื่อพระเอก(หรือตัวร้าย)ของเราจะโดนไล่ออกจากทีม Avengers!

ต้องติดตามกันแล้วล่ะครับ ยังไงก็ขอบคุณมากๆที่ตามอ่านกันมาครับ!(แปลช้ามากกกกก!)